ตัวละครหลัก ของ คาเรน สแทดท์เฟลด์

ลูลูช แลมเพอรูจ

ลูลูช แลมเพอรูจ (ญี่ปุ่น: ルルーシュ・ランペルージ; โรมาจิ: Lelouch Lamperouge) เป็นนักเรียมมัธยมปลาย อายุ 17 ปี เรียนที่แอชฟอร์ด ตัวจริงของเขาเป็นลูกของจักรพรรดิแห่งบริแทนเนีย มีชื่อจริงคือ ลูลูช วี บริแทนเนีย (ญี่ปุ่น: ルルーシュ・ヴィ・ブリタニア; โรมาจิ: Lelouch Vi Britannia) รัชทายาทลำดับที่ 17 เมื่อตอนที่เขาอายุ 10 ขวบนั้น แม่ของเขาได้ถูกสังหาร โดยคนในเชื้อพระวงศ์เชื่อว่าเป็นฝีมือของพวกก่อการร้าย แต่พ่อของเขานิ่งเฉย เขาจึงสาบานที่จะทำลายล้างบริแทนเนีย

ภายหลังลูลูชและน้องสาวได้ถูกส่งตัวไปที่ญี่ปุ่นเพื่อเป็นตัวประกัน ในขณะนั้นพวกเขาได้พักที่บ้านของรัฐมนตรี เก็มบุ คุรุรุกิ ทำให้ลูลูชได้เป็นเพื่อนกับลูกชายของรัฐมนตรีที่ชื่อ สุซาคุ คุรุรุกิ การที่เขาใช้ชื่อปลอมเพราะไม่อยากถูกส่งกลับที่จักรวรรดิเพื่อถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเหมือนตอนที่โดนส่งมาเป็นตัวประกันที่ญี่ปุ่น

เจ็ดปีหลังจากนั้น เขาได้เป็นนักเรียนของโรงเรียนขุนนางตระกูลแอชฟอร์ด และมีฝีมือในการเล่นหมากรุกอย่างมาก เขาหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำจากการเอาชนะขุนนางหลายคน แต่ต้องพบกับอุบัติเหตุที่ทำให้เขาต้องไปอยู่กลางสมรภูมิชินจุกุ เขาจึงได้รับพลัง กีอัส มาจากองค์หญิงองค์ที่ 2 ที่ ชื่อว่า "ซีทู" และได้นำทัพชาวญี่ปุ่นผู้ต่อต้านตีโต้กองทัพบริแทนเนีย รวมไปถึงสังหารโคลวิส ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องต่างแม่เขาก็ได้รวมตัวกลุ่มกบฏกลุ่มหนึ่ง ก่อตั้งภาคีอัศวินดำขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับบริแทนเนีย ล้างแค้นให้แม่ของเขา และสร้างโลกที่อ่อนโยนที่เขาและนันนาลลี่น้องสาวจะอยู่ได้อย่างสงบสุข โดยเขาได้เป็นหัวหน้ากลุ่มใช้แฝงนามว่า ซีโร่ (ZERO) และปิดบังใบหน้าด้วยหน้ากาก เพื่อไม่ให้คนในกลุ่มรู้ว่าเขาเป็นใคร เขาออกปฏิบัติการร่วมกับกลุ่มที่เขาตั้งมา เขาเป็นแม่ทัพที่เก่งกาจและมีฝีมือ แต่ด้วยกำลังกายอันอ่อนแอ ทำให้เขาถูกคุรุรุกิ สุซาคุจับตัวได้หลังเหตุการณ์ยุทธการโตเกียวครั้งแรก และส่งให้ชาร์ลส์ ผู้เป็นพ่อทำการตัดต่อความทรงจำ และผนึกกีอัสไว้

เขาปรากฏตัวอีกครั้งในนาม "จูเลียส คิงส์เลย์" แม่ทัพคนใหม่ของบริแทนเนีย ในศึกยูโรเปีย แต่เขาถูกจับได้ว่าเป็นซีโร่ ทำให้กีอัสของชาร์ลส์ที่ถูกผนึกคลายออก เขาจึงถูกตัดต่อความทรงจำอีกครั้ง ครานี้ให้กลับไปเป็นนักเรียนในโรงเรียนแอชฟอร์ด และมีน้องชายชื่อ "โรโล่ แลมเพอรูจ" เขาได้รับความทรงจำกลับคืนหลังเดินทางไปเล่นพนันกับขุนนางชั้นผู้ใหญ่ และเกิดเหตุการณ์การก่อการร้ายของภาคีอัศวินดำพอดี เขาจึงนำกลุ่มภาคีอัศวินดำชนะกองทัพบริแทนเนีย และปลดปล่อยนักโทษชาวอีเลฟเว่นที่ถูกจับหลังเหตุการณ์กบฏดำ (Black Rebellion) ลูลูชนำทัพถล่มภาคีศาสนจักรกีอัสหลังการตายของเชอร์ลีย์ เฟเน็ต คนรักของลูลูช และนันนาลลี่ถูกลักพาตัว ก่อนที่จะได้พบกับชาร์ลส์ แต่ครานี้เขาไม่ถูกจับตัวได้ แม้จะไม่ชนะก็ตามเขาถูกภาคีอัศวินดำซึ่งตอนนี้อยู่ในการควบคุมของชไนเซลทรยศ แต่เอาตัวรอดมาได้จากการเสียสละชีวิตของโรโล่ เขาจึงมุ่งหน้าไปยังเกาะคามิเนะ และร่วมมือคุรุรุกิ สุซาคุ กับซีทู ทำการสังหารชาร์ลส์ และมารีแอนน์ ผู้เป็นพ่อแม่ของเขาในโลกแห่งซี และตั้งตนเองเป็นจักรพรรดิคนที่ 99 ของจักรวรรดิบริแทนเนียอันศักดิ์สิทธิ์

เมื่อเขาเป็นจักรพรรดิ เขาได้ทำลายวัฒนธรรมผูกขาดชนชั้นของบริแทนเนีย แต่ยังคงอำนาจไว้กับตัวเอง และกำจัดผู้เห็นต่างอย่างมากมาย เขาออกอุบายนำบริแทนเนียขอเข้าร่วมมหาสหพันธรัฐด้วยการใช้กำลังข่มขู่ แต่ไม่สำเร็จ ก่อนที่เขาจะต้องทำศึกกับชไนเซล เอล บริแทนเนีย และป้อมปราการลอยฟ้าดาโมเคลส ลูลูชซึ่งสามารถพลิกแพลงได้ด้วยโอกาสเพียงครั้งเดียว สามารถ "รุกฆาต" ชไนเซล ด้วยการใช้วิดีโอหลอกความคิดชไนเซล และเข้าถึงตัวเมื่อถึงเวลาที่คาดหมาย ก่อนที่จะใช้กีอัสสั่งให้ชไนเซลรับใช้ซีโร่ และรวมโลกเป็นหนึ่งได้สำเร็จ ก่อนที่เขาจะถูกคุรุรุกิ สุซาคุ ในชุดซีโร่ สังหาร ตามที่เขาได้ตกลงกับตัวสุซาคุไว้ และเสียชีวิตในมณฑลญี่ปุ่น

คุรุรุกิ สุซาคุ

คุรุรุกิ สุซาคุ (ญี่ปุ่น: 枢木 スザク; โรมาจิ: Kururugi Suzaku) เป็นเพื่อนสมัยเด็กของลูลูช และหนึ่งในคนที่รู้ว่าลูลูชแท้จริงเป็นใคร หลังจากสงคราม สุซาคุได้เข้าเป็นทหารของบริแทนเนีย การที่สุซาคุเข้าเป็นทหารทำให้เขาเป็นประชากรบริแทนเนียผู้ทรงเกียรติ และได้รับสิทธิพิเศษในการขับหุ่นไนท์แมร์เฟรมที่ให้สิทธิเฉพาะชาวบริแทนเนียเท่านั้น โดยเป็นคนขับไนท์แมร์เฟรม รุ่นที่ 7 ลานเซลอต (Lancelot - มีที่มาจากชื่อหนึ่งในอัศวินโต๊ะกลม) ซึ่งเป็นเบต้าที่ยังไม่สมบูรณ์ ในภายหลัง เขาได้เข้าเรียนที่แอชฟอร์ดตามคำสั่งของเจ้าหญิงยูเฟเมีย

สุซาคุไม่เชื่อในการกระทำที่ผิด และไม่เห็นด้วยกับการกระทำของซีโร่ เขาต้องการจะเปลี่ยนบริแทนเนียจากภายใน เขาถูกจับกุมในข้อหาการสังหารโคลวิส ข้าหลวงญี่ปุ่นของบริแทนเนีย แต่เขาถูกซีโร่ช่วยเอาไว้ ทำให้รอดพ้นข้อกล่าวหา กระนั้นก็ตามเขาก็ไม่ขอเข้าร่วมกับซีโร่ และเลือกเส้นทางที่จะเดินต่อไปกับบริแทนเนีย ภายหลังเขาได้กลายเป็นทหารคนสนิทที่ยูเฟเมีย ลี บริแทนเนีย โปรดมาก เขาจึงได้รับการแต่งตั้งยศอัศวิน (Sir) เป็นชาวอีเลฟเว่นคนแรกที่สามารถทำได้ เขาถูกกีอัสของซีโร่สั่งให้ "มีชีวิต" ต่อไป กล่าวคือไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม เขาจะพยายามเอาตัวรอด ไม่ยอมตาย ตามคำสั่งของกีอัสสาป ภายหลังยูเฟเมียถูกซีโร่ใช้กีอัส และถูกสังหาร เขาจึงเสียใจมาก และสามารถจับตัวซีโร่ได้สำเร็จ และส่งให้จักรพรรดิชาร์ลส์ ซี บริแทนเนีย โดยมีข้อแม้คือต้องแต่งตั้งให้เขาเป็น "อัศวินโต๊ะกลม" (Knights of the Round) อัศวินผู้มีฝีมือสูงสุดแห่งจักรวรรดิ โดยเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นอัศวินหมายเลขเจ็ด (Knight of Seven)

ในศึกที่ยูโรเปีย เขาได้กลายเป็นทหารคนสนิทของจูเลียส คิงส์เลย์ และได้ทำศึกในยูโรเปียต่อ จนจบสงครามได้หนึ่งปี เขาได้กลับมาเรียนต่อที่แอชฟอร์ด โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าลูลูชได้ความทรงจำกลับคืนแล้ว จวบจนระยะหนึ่งที่เชอร์ลีย์ เฟเน็ตเสียชีวิต ทำให้เขาสงสัยในตัวลูลูช และนัดพบกับเขาที่ศาลเจ้าคุรุรุกิ แต่สุดท้ายก็ตกลงกันไม่ได้ จึงปะทะกันอีกครั้งในศึกโตเกียวครั้งที่สอง คราวนี้สุซาคุซึ่งถูกกีอัส ได้ยิงระเบิดที่มีชื่อว่า "เฟลยา" (F.L.E.I.J.A. - Field Limitary Effective Implosion Armament : อาวุธประสิทธิภาพจำกัดวงระเบิด) ทำลายโตเกียวทั้งเมือง ภายหลังเขาเข้าร่วมกับชไนเซลในการสังหารจักรพรรดิชาร์ลส์ แต่ทำไม่สำเร็จ เขาจึงเข้าร่วมกับลูลูชในการทำตามเป้าหมายเดิม เมื่อลูลูชแต่งตั้งตนเป็นจักรพรรดิ เขาจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็น "อัศวินหมายเลขศูนย์" (Knight of Zero)

เมื่อเขาได้เป็นอัศวินหมายเลขศูนย์ เกิดการลุกฮือของผู้ภักดีต่ออดีตจักรพรรดิชาร์ลส์ นำโดยบิสมาร์ค วอล์ดชไตน์ อัศวินหมายเลขหนึ่ง, จีโน่ ไวน์แบร์ก อัศวินหมายเลขสาม, โดโรเธีย แอ็ร์นสท์ อัศวินหมายเลขสี่ และ โมนิกา ครูเชฟส์กี้ อัศวินหมายเลขสิบสอง แต่เขาคนเดียวสามารถสังหารสมาชิกเหล่านี้ได้เกือบทั้งหมด มีเพียงจีโน่ที่สามารถรอดกลับไปได้ ภายหลังในศึกดาโมเคลส เขาเป็นผู้ใช้อุปกรณ์ตัดวงจรเฟลยา จนสร้างจังหวะให้ลูลูชเข้าไปยังป้อมปราการดาโมเคลสได้ เขาสามารถเอาชนะจีโน่ แต่ไม่สามารถเอาชนะคาเรนได้ แต่ถึงกระนั้น ทัพของฝ่ายลูลูชก็สามารถเอาชนะได้สำเร็จ

ภายหลังศึก เขาถูกรายงานว่าเสียชีวิตแล้ว แต่ความเป็นจริง เขายังมีชีวิตอยู่ โดยมีลูลูชส่งต่อตำแหน่ง "ซีโร่" ให้กับเขา เขาที่ตกลงกับลูลูช ก็ได้ทำการสังหารลูลูชลง และกลายเป็นทหารคนสนิทของนันนาลลี่ วี บริแทนเนีย น้องสาวของลูลูช ที่ขึ้นมาเป็นจักรพรรดินีต่อจากพี่ชายของเธอ

ซีทู

ซีทู (ญี่ปุ่น: シー・ツー; โรมาจิ: C.C.) ผู้หญิงปริศนาผู้เป็นอมตะ ผู้มอบพลังกีอัสให้กับลูลูช เธอเรียกตัวเองว่า ผู้สมรู้ร่วมคิด กับลูลูช คอยช่วยเหลือลูลูชในยามคับขันเสมอ ที่หน้าผากของเธอมีโค้ดสีแดงอยู่ด้วยและดูเหมือนเธอจะรู้จักกับ มารีแอน หรือแม่ของลูลูชเป็นการส่วนตัว เธอมีดวงตาสีเหลีองอำพันและมีผมยาวสีเขียวใบไม้ผลิ ชอบกินพิซซ่าเป็นชีวิตจิตใจ เคยเกือบโดนจับเพราะพิซซ่า(อ้างอิงจากตอนที่5ซีทูมาโรงเรียนของลูลุสเพราะอยากกินพิซซ่ายัก) และซีทูเธอมีความปรารถนาที่แท้จริงอยู่คือทำให้ใครชักคนที่สามารถฆ่าเธอได้แต่อย่างนั้นสิ่งที่ซีทูปรารถนาจริงๆนั้นไม่ใช่ความตายแต่เป็นความรักที่แท้จริง มีแต่ลูลูชเท่านั้นที่รู้ความปรารถนานี้ ถึงซีทูจะแสดงความเย็นชาใส่ลูลูชแต่ซีทูก็ห่วงลูลูชจากใจจริง ในตอนจบของภาค R1 ซีทูได้บอกกับลูลูชว่า เอาชนะให้ได้นะลูลูช เอาชนะอดีตของตัวเอง และก็ผลของการกระทำอันนั้น จากนั้นซีทูก็จูบกับลูลูช ทำให้ลูลูชอึ้ง ลูลูชได้กล่าวกับซีทูว่า อย่าตายนะ แสดงว่าถึงลูลูชรู้อยู่แล้วว่าซีทูเป็นอมตะแต่ลูลูชก็ไม่อยากให้ซีทูตาย มันแสดงให้เห็นถึงความผูกพันทั้งสองที่เคยผ่านอะไรมาด้วยกัน

คาเรน สแทดท์เฟลด์

คาเรน สแทดท์เฟลด์ (ญี่ปุ่น: カレン・シュタットフェルト; โรมาจิ: Karen Stadtfield) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ โคซุกิ คาเรน (ญี่ปุ่น: 紅月カレン; โรมาจิ: Kōzuki Karen) เธอเป็นลูกครึ่งบริทานเนียและอีเลฟเว่น เป็นนักเรียนในโรงเรียนแอชฟอร์ด และเป็นหนึ่งในกลุ่มกบฏโดยใช้ชื่อแฝง ปัจจุบันสังกัดภาคีอัศวินดำ และอยู่ใต้การบังคับบัญชาของซีโร่ เป็นหน่วยอิสระที่ขึ้นตรงต่อซีโร่เท่านั้น เป็นนักบินประจำไนท์แมร์รุ่นพิเศษ กุเรนนิชิกิ ที่เป็นไนท์แมร์แข็งแกร่งที่สุดในภาคีอัศวินดำ หลังจากสงคราม พ่อของเธอซึ่งเป็นชาวบริแทนเนียได้แต่งงานใหม่กับคนบริแทนเนีย และปล่อยให้ผู้เป็นแม่ของคาเรน ซึ่งเป็นชาวอีเลฟเว่น ทำงานในบ้านในฐานะคนรับใช้ ภายหลัง แม่ของเธอได้เข้าไปใช้ยาเสพติดจนมีโทษจำคุก เธอสัญญาว่าจะช่วยแม่ของเธอมาให้ได้ คาเรน สแทดท์เฟลด์ ชอบ ลูลูชก่อนที่จะจากกันคาเรน สแทดท์เฟลด์ก็มาจูบกับลูลูช

นานาลี่ แลมเพอรูจ

นานาลี่ แลมเพอรูจ (ญี่ปุ่น: ナナリー・ランペルージ; โรมาจิ: Nunnally Lamperouge) น้องสาวแท้ๆของลูลูช เดิมชื่อ นานาลี่ วี บริแทนเนีย (ญี่ปุ่น: ナナリー・ヴィ・ブリタニア; โรมาจิ: Nanaly Vi Britannia) เธอได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ที่พระนางมาเรียน์แอน แม่ของลูลูชถูกลอบสังหาร จนทำให้เธอตาบอดและขาพิการนับแต่นั้นมา ลูลูชเชื่อว่าสักวันน้องสาวของเขาจะต้องมองเห็นอีกครั้งหนึ่ง เธอเป็นที่รู้จักดีในกลุ่มเพื่อนๆของลูลูช อีกทั้งยังสนิทกับสุซาคุตั้งแต่เด็กอีกด้วย นานาลี่มีจิตใจดีและเรียกชาวอีเลฟเว่นว่าชาวญี่ปุ่น เธอเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ลูลูชต้องการจะต่อสู้

โรโล่ แลมเพอลูช

โรโล่ แลมเพอลูช (ญี่ปุ่น: ロロ・ランペルージ; โรมาจิ: Roro Ranperūji) ถูกแนะนำในซีซั่น 2 ในฐานะมือสังหารที่แสดงเป็นน้องชายของลูลูซเพื่อเฝ้าติดตามลูลูซที่ถูกบันทึกความทรงจำใหม่ในตอนจบซีซั่นแรก โรโล่เป็นนักบินของวินเซนต์ที่มีร่างต้นแบบจากแลนสลอตน์ของซึซาคุและมีพลังกีอัสที่ตาข้างขวาที่สามารถหยุดการรับรู้ประสาททั้ง 5 ของคนที่อยู่ทั่วทั้งอาณาเขตของเขา แต่อย่างไรก็ตามพลังของเขาก็มีข้อจำกัดคือเมื่อใช้จะทำให้หัวใจหยุดเต้นขณะใช้กีอัส เขาถูกใช้เป็นเครื่องมือของลูลูซในการทำงานสนับสนุนภาคีอัศวินดำและเชื่อใจลูลูซอย่างสนิทใจว่าเขาเป็นครอบครัวของลูลูซ สมบัติล้ำค่าที่สุดของเขาก็คือล็อกเก๊ตที่ลูลูซให้เป็นของขวัญวันเกิดในขณะลูลูซคิดว่าโรโล่เป็นน้องชายจริง ๆ

โรงเรียนแอชฟอร์ด

จากซ้ายไปขวา: ริวัล, อาร์เธอร์ (แมวบนมอเตอร์ไซด์), คาลเลน สแทดท์เฟลด์ (คาเรน), ซาโยโกะ, คุรุรุกิ สุซาคุ, ลูลูช แลมเพอรูจ, C.C. (ซีทู), เชอร์ลี่, มิลลี่, นีน่า, และนันนาลี่ แลมเพอรูจ

โรงเรียนแอชฟอร์ด (アッシュフォード学園, Asshufōdo Gakuen?) โรงเรียนสำหรบชาวบริแทนเนียที่ตั้งในโตเกียวที่ก่อตั้งขึ้นมาและดำเนินงานโดยมูลนิธิแอชฟอร์ด (アッシュフォード財団, Asshufōdo Zaidan?) ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลเพื่อสนับสนุนการศึกษาโดยขุนนางชั้นสูงของตระกูลแอขฟอร์ด และที่นั้นก็เป็นที่อยู่อาศัยของลูลูซกับนานาลี่เพราะในอดีตแม่ของพวกเขาเคยมีความสัมพันธ์กับตระกูลแอชฟอร์ดโดยอยู่อาศัยในพื้นที่หอของสภานักเรียน

อาร์เธอร์

อาร์เธอร์ (アーサー, Āsā?) แมวที่องค์หญิงลำดับที่ 3 ยูเฟย์เมียร์ทรงรับมาเลี้ยงหลังจากที่เธอเดินทางมายัง Area 11 วันนึงมันโดนไล่ตามในโรงเรียนเพราะเดินเข้าไปในห้องของลูลูซและได้ขโมยหน้ากากซีโร่ของลูลูซหนีไปโดยเอาใส่หัวของมันเองและไป ๆ มา ๆ สภานักเรียนก็ได้รับอุปการะดูแลและสร้างบ้านให้มันอยู่โดยให้อยู่ในห้องสภานักเรียน และมันมักเป็นตัวปล่อยมุกตลกเป็นประจำในซีรีส์เพราะไม่ว่าเมื่อไหร่หรือที่ไหนมักจะกัดสุซาคุเป็นประจำแต่กับคนอื่นมันไม่เคยกัดใครเลย อาร์เธอร์ได้ช่วยชีวิตของสุซาคุจากการโดนทามากิยิงปืนใส่ โดยกระโดดเข้าไปกัดที่มือของทามากิในตอนสุดท้ายของซีซั่นแรก ในซีซั่น 2 สุซาคุได้เอาอาร์เธอร์กลับไปบริแทนเนียด้วยและมันเป็นที่ชอบใจของสมาชิกไนท์ออฟราวด์อย่างอาเนียเป็นอย่างมาก เมื่อสุซาคุได้กลับไปเรียนที่โรงเรียนแอชฟอร์ดอีกครั้งเขาก็ได้นำมันกลับมาด้วย ในตอนสุดท้ายอาร์เธอร์ได้ไปนั่งอยู่ที่หน้าป้ายหลุมศพของสุซาคุในตอนพลบค่ำ อาร์เธอร์ปรากฏตัวครั้งสุดท้ายในภาพงานแต่งงานของโอกิกับวิเลตตาโดยอยู่บนหัวของอาเนีย

มิเรย์ แอชฟอร์ด

มิเรย์ แอชฟอร์ด (ミレイ・アッシュフォード, Mirei Asshufōdo?) หลานสาวของผู้อำนวยการโรงเรียนแอชฟอร์ด ลูเบ็น เค แอชฟอร์ด และเป็นประธานสภานักเรียนโรงเรียนแอชฟอร์ด มิเรย์เป็นคนที่ชอบหยอกล้อเชอร์ลี่และกระตือรือร้นมากในการหาจุดอ่อนหรือความลับของลูลูซ ซึ่งเห็นได้ชัดมากเมื่อมิเรย์ได้ยินว่าอาร์เธอร์ได้ขโมยของสำคัญของลูลูซไปเธอถึงกับประกาศให้นักเรียนทั่วทั้งโรงเรียนช่วยกันไล่จับและเอาส่งให้เธอ แต่จริง ๆ แล้วเธอแอบมีใจให้กับลูลูซแต่เธอก็ต้องหักห้ามใจเพื่อที่จะฟื้นฟูความยิ่งใหญ่ของตระกูลแอชฟอร์ดขึ้นมาอีกครั้งโดยการแต่งงานกับขุนนางชั้นสูง

มิเรย์รู้ฐานะที่แท้จริงของลูลูซที่เป็นองค์ชายของบริแทนเนีย ครั้งนึงในอดีตตระกูลของเธอเคยเป็นผู้สนับสนุนจักรพรรดินีมารีแอน ในฟิกเจอร์ดราม่าที่ 2 ที่ถูกบรรจุในดีวีดีที่จำหน่าย ปู่ของเธอกับปู่ของนีน่าพูดว่าจะร่วมมือกันพัฒนาไนท์แมร์เฟรมแกนีมีดแต่แล้วมารีแอนซึ่งเป็นผู้นำตระกูลกลับถูกลอบปลงพระชมน์จึงทำให้สถานะทางสังคมของตระกูลตกต่ำลงถึงขีดสุดและเพื่อการฟื้นฟูตระกูลมิเรย์จำต้องแต่งงานกับลอยด์ แอสพรุนด์ หลังจากเหตุการณ์ใน R1 มิเรย์ยังคงยังต้องใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนต่อไปเพราะเธอสอบตกอย่างไรก็ตามเธอก็ได้บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ในโรงเรียนกับเพื่อน ๆ ทุกคนในท้ายสุดเธอก็สามารถจบการศึกษาได้และทำงานเป็นนักข่าวในสถาณีโทรทัศน์ท้องถิ่นและขอถอนหมั้นกับลอยด์เพื่อเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด มิเรย์ปรากฏตัวครั้งสุดท้ายในภาพงานแต่งงานของโอกิกับวิเล็ตตา

ริวัล คาลดีมอนด์

ริวัล คาลดีมอนด์ (ญี่ปุ่น: リヴァル・カルデモンド; โรมาจิ: Rivaru Karudemondo) 1 ในเพื่อนของลูลูซ บ่อยครั้งที่เขามักเป็นคนขับมอเตอร์ไซด์พาลูลูซไปเล่นพนันเกมส์หมากรุกกินเงิน เขาทำงานชั่วคราวเป็นบาร์เทนเดอร์เป็นพนักงานเสริฟเพื่อประชดต่อความรักที่เขามีให้กับมิลลี่ แอชฟอร์ดโดยเฉพาะตอนที่เธอบอกว่าจะไปดูตัวแต่งงานตามคำสั่งของแม่ สิ่งที่แสดงให้เห็นในซีรีส์และในดีวีดีเอ็กซ์คูซีพโบนัสคือริวัลเป็นเพื่อนกับสุซาคุได้อย่างรวดเร็วมากหลังจากที่สุซาคุได้เข้าเป็นสมาชิกสภานักเรียนตามคำขอของลูลูซ นามสกุลที่แท้จริงของริวัลไม่ใช่คาลดีมอนด์ แต่นั้นเป็นนามสกุลของแม่เขาและเขาได้ใช้มันหลังจากที่พ่อแม่ของเขาหย่ากัน เขาเกิดที่บริเวณที่ราบสูงในเขตแคลิฟอร์เนีย ริวัลปรากฏตัวครั้งสุดท้ายในภาพงานแต่งงานของโอกิกับวิเลตตา

นีนา ไอสไตน์

นีนา ไอสไตน์ (ญี่ปุ่น: ニーナ・アインシュタイン; โรมาจิ: Nīna Ainshutain) ถูกแนะนำครั้งแรกในฐานะสมาชิกสภานักเรียนโรงเรียนแอซฟอร์ดที่ชอบอ่านหนังสือเป็นอย่างมาก นีน่าแสดงให้เห็นถึงอาการของโรคซิโนโฟบิก (โรคกลัวชาวต่างชาติ) อย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะกับชาวอีเลฟเว่น เมื่อสุซาคุเดินทางมาเรียนที่โรงเรียน ต่อมาเธอคลั่งไคล้ในตัวขององค์หญิงลำดับที่ 3 ยูเฟย์เมียร์ หลังจากที่ช่วยเธอระหว่างเป็นตัวประกันที่กำลังจะโดนทำร้ายที่โรงแรมทะเลสาบคาวากุจิ

ลอยด์ แอสพรุนด์สนใจงานวิจัยส่วนตัวของนีน่าที่จะทำให้ใช้ยูเรเนียม-235เป็นเชื้อเพลิงจึงได้หาซากุระไดต์มาให้เพื่อการวิจัยต่อไป ต่อมาเมื่อยูเฟย์เมียร์ได้สิ้นพระชนม์ นีน่าเริ่มมีอารมณ์แปรปวนไม่อยู่กับร่องกับรอยและคิดเพียงอย่างเดียวคือต้องฆ่าซีโร่เพื่อแก้แค้นให้องค์หญิง เธอทำการติดเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ต้นแบบให้กับไนท์แมร์เฟรมแกนีมีดของโรงเรียนแอซฟอร์ด หากระเบิดจะมีรัศมีการทำลายล้างได้ทั้งเขตโตเกียวแต่ผลก็คือไม่ระเบิด

นีน่าได้รับการคัดเลือกให้เข้าทำงานจากชไนล์เซลโดยให้เป็นหัวหน้าทีมวิจัยของเขาที่ดัลลัสในเขตเท็กซัส ชไนล์เซลโน้มน้ามเธอให้ทำงานกับเขาเพื่อยูเฟย์เมียร์เพื่อแก้แค้นซีโร่ที่เธอไม่เคยลืม เธอได้คิดค้นระเบิดภายใต้รหัสที่ชื่อว่า "เฟรย่า" (Field Limitary Effective Implosion Armament ตัวย่อ F.L.E.I.J.A.) ซึ่งมีรัศมีการทำลายล้างสูง ระเบิดลูกแรกถูกใช้ที่โตเกียวมีรัศมีการทำลายล้างถึง 8 กิโลเมตรและในเวลาต่อมาเมื่อทำการปลดลิมิตออก ลูกที่ 2 จึงถูกใช้ที่นครหลวงเพนดราก้อน เมืองหลวงของบริแทนเนียทำให้มีรัศมีการทำลายล้างเพิ่มขึ้นมากถึง 100 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามแม้ในตอนแรกเธอดีใจมากที่ความหวังของเธอที่จะได้แก้แค้นซีโร่กำลังจะเป็นจริงแต่เธอก็ต้องตกใจกับอำนาจการทำลายล้างจากผลงานอาวุธของเธอที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ถึง 35 ล้านคนในเขตอาศัยของโตเกียวต้องตายทั้งหมด ลอยด์ได้บอกนีน่าว่าหากเธอรู้สึกผิดในการกระทำให้เลิกเป็นนักวิทยาศาสตร์ซะหากไม่ก็จงเป็นนักวิทยาศาสตร์และวิจัยต่อไป

นีน่าจำต้องซ่อนตัวอยู่โรงเรียนแอซฟอร์ดจากคดีที่เธอมีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนาเฟรย่า ลูลูซได้ขอความช่วยเหลือจากนีน่าให้พัฒนาอาวุธต่อต้านเฟรย่าเพื่อสอนบทเรียนที่มากกว่าความตายให้กับชไนล์เซลและเขาก็ทำสำเร็จ เมื่อนีน่ายอมตกลงช่วยเขา แต่เขาที่อดที่จะรู้สึกผิดไม่ได้ว่าเขาเป็นคนฆ่ายูฟี่ แต่อย่างไรก็ตามเขาก็คุยกับเธอเกี่ยวกับเรื่องซีโร่เธอบอกว่าเธอไม่มีวันยกโทษให้ซีโร่เด็ดขาดแต่เธอยังคงต้องหาคำตอบให้กับตัวเธอเองก่อนจากกันลูลูซได้บอกกับเธอว่าเธอคนที่ดีมาก ๆ ต่อมาเธอก็เป็นนักโทษของจักรพรรดิลูลูซโดยถูกคุมขังร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ของทั้งบริแทนเนียและภาคีอัศวินดำ แต่อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้ถูกตัดสินโทษประหารชีวิต ครั้งสุดท้ายที่เธอปรากฏตัวคือในภาพงานแต่งงานของวิเลตตากับโอกิในสภาพที่ไม่มีอาการของโรคซิโนโฟบิก

เชอร์ลี่ เฟนเนต

เชอร์ลี่ เฟนเนต (シャーリー・フェネット, Shārī Fenetto?) เป็นเหมือนเด็กสาวทั่วไปที่มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีและเป็นที่รักของทุก ๆ คน เธอเป็นสมาชิกชมรมว่ายน้ำ เธอแอบชอบลูลูซตั้งแต่แรกเห็นตอนที่มาเรียนที่โรงเรียนแอชฟอร์ดถึงแม้เธอจะพยายามใกล้ชิดกับลูลูซซักเท่าใดก็ไม่ค่อยเป็นผลสำเร็จเท่าไหร่นักจนสุดท้ายก็ทำสำเร็จ นิสัยของเธอมักจะเป็นคนที่ตื่นเต้นตกใจง่ายกับเรื่องต่าง ๆ ก่อนที่คนอื่นจะเล่าให้ฟังจนจบ โดยเฉพาะเรื่องของลูลูซ เชอร์ลี่เป็นตัวละครที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับที่ 19 ในอนิเมะกรังด์ปรีซ์ครั้งที่ 29 ในสาขาตัวละครหญิงที่ได้รับความนิยม ชื่อของเธอและลักษณะตัวละครถูกออกแบบเหมือนกับแอนนี่ เชอร์ลี่ (アン・シャーリー, An Shārī?) ซึ่งเป็นตัวละครจากซีรีส์การ์ตูนญี่ปุ่นชื่อดังที่ได้รับความนิยมเรื่องสาวน้อยแอนนี่แห่งกรีนเกเบิลส์ (赤毛のアン, Akage no An?)

ซาโยโกะ ชิโนซากิ

ซาโยโกะ ชิโนซากิ (篠崎 咲世子, Shinozaki Sayoko?) ผู้หญิงชาวญี่ปุ่นที่มีจิตใจเมตตากรุณาที่ทำงานเป็นคนรับใช้ที่ดูแลลูลูซกับนันนาลี่ในหอพัก เดิมทีเป็นคนรับใช้ส่วนตัวของมิลลี่ แอชฟอร์ดแต่เมื่อลูลูซกับนันนาลี่ได้รับการดูแลจากตระกูลแอชฟอร์ดเธอจึงได้รับมอบหมายให้ดูแลความเป็นอยู่ของทั้งคู่ แม้เธอจะทำงานเป็นคนรับใช้แต่แท้จริงแล้วเธอได้สำเร็จการศึกษาวิชาศิลปะการป้องกันตัวเป็นลำดับที่ 37 ของโรงเรียนชิโนซากิ (篠崎流, Shinozaki Ryuu?) โดยมีความสามารถในการใช้ระเบิดควันและคุไน (ศิลปะการต่อสู้อย่างหนึ่ง) อีกทั้งยังมีความสามารถทางการกีฬาสูงมาก ๆ จนเรียกได้ว่าเป็นสุดยอดคนรับใช้หรือซุปเปอร์เมด (スーパーメイド, sūpāmeido?) ในบันทึกประวัติ ในดีวีดีที่จำหน่ายจะมีส่วนใส่เพิ่มเติมลงมาในแผ่นที่เรียกว่า "ไดอารี่ของซาโยโกะ" ซึ่งจะกล่าวถึงชีวิตประจำวันของเธอในโรงเรียนแอชฟอร์ด

ซาโยโกะจะคอยช่วยดูแลนันนาลี่เวลาที่ลูลูซออกไปข้างนอก ต่อมาเธอได้รับมอบหมายจากดีทฮาร์ด รีดให้เป็นสายลับให้กับภาคีอัศวินดำและสามารถหลบหนีจากการจับกุมระหว่าง Black Rebellion โดยหนีไปยังสหพันธ์จีนกับดีทฮาร์ดและสมาชิกคนอื่น ๆ ลูลูซซึ่งได้ความทรงจำกลับมาและจำเรื่องเกี่ยวกับเธอได้ในซีซั่น 2 และขอให้เธอแสดงบทบาทเป็นตัวเขาอีกคนที่แอชฟอร์ดระหว่างที่เขาไม่อยู่ อย่างไรก็ตามเธอก็สามารถแสดงเป็นลูลูซได้อย่างยอดเยี่ยมจนน่าเหลือเชื่อแต่เธอก็ทำให้ชีวิตประจำวันของลูลูซในสายตาคนอื่นกลายเป็นเสือผู้หญิงและยิ่งกว่านั้นยังแสดงความสามารถทางการกีฬาที่ผิดแปลกไปจากปกติของลูลูซในงานเทศกาลที่มิลลี่จัดขึ้น ระหว่างศึกโตเกียวครั้งที่ 2 เธอเป็นคนนำทีมปฏิบัติการช่วยเหลือนันนาลีพร้อมกับโรโล่และโดนผลของรัศมีระเบิดเฟรย่า อย่างไรก็ตามเธอกับนันนาลี่ก็สามารถหนีมาได้ด้วยยานแต่ก็โดนชไนล์เซลจับได้ ซาโยโกะสามารถหนีมาได้และกลับมาหาลูลูซและบอกถึงแผนของชไนล์เซลทั้งที่บาดเจ็บ เจเรเมียได้พูดกับเธอเรื่องเกี่ยวกับการสวามิภักที่เธอเลือก (ระหว่างบริแทนเนีย) และบอกว่าเธอนั้นเหมือนกับเขาที่มีความกล้าหาญและมีเกียรติ เมื่อยานอวาลอนโดนภาคีอัศวินดำยึด ลูลูซได้สั่งให้เธอปล่อยตัวประกันสหพันธ์ประชาชาติและแสร้งทำเป็นว่าทรยศเขาและนั้นเป็นคำสั่งสุดท้ายที่เขาสั่งเธอ ต่อมาเธอก็เป็นนักโทษถูกคุมขังเช่นเดียวกับรัคชาตะ, นีน่าและเซซิลแต่ก็ได้รับอิสระภายในเวลาไม่นาน

ใกล้เคียง

คาเรน คล่องตรวจโรค คาเรน เวตเทอร์ฮาห์น คาเรน กรัยวิเชียร คาเรน กิลแลน คาเรน สปาร์ค โจนส์ คาเรน ม็อก คาเรน พิตต์แมน คาเรน อูห์เลนเบ็ค คาเรน สแทดท์เฟลด์ คาเรน ลอร์ด (นักกีฬาว่ายน้ำ)